ไม่มีสินค้าในตะกร้า
ความเป็นสุดยอดสารอาหารของ สาหร่ายสไปรูไลน่า
สาหร่ายสไปรูไลน่าเป็นสาหร่ายสีเขียวแกรมน้ำเงิน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “สไปรูไลน่า พลาเทนซิส” จัดเป็นสาหร่ายเซลล์เดียวที่มีขนาดเล็กมากซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 3,500 ล้านปีมาแล้ว มันจึงจัดเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นล่างสุดของห่วงโซ่อาหาร กล่าวคือ ตั้งหน้าตั้งตาผลิตอาหารให้กับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ โดยอาศัยพลังงานจากแสงอาทิตย์และคลอโรฟิลด์ที่มีอยู่ในตัวเอง สาหร่ายสไปรูไลน่าจัดได้ว่าเป็นสุดยอดของสารอาหาร เนื่องจากจัดเป็นพืชที่มีสารอาหารครบถ้วนและให้คุณค่าทางโภชนาการสูงในระดับที่สามารถทดแทนมื้ออาหารได้ สาหร่ายชนิดนี้เริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่ปี ค.ศ. 1828 จากการค้นพบของนักชีววิทยาชาวเยอรมัน ซึ่งตั้งชื่อสาหร่ายชนิดนี้ตามลักษณะภายนอกของมัน ซึ่งมีรูปร่างลักษณะม้วนขดเป็นเกลียวเล็กๆ หรือที่ตรงกับภาษาอังกฤษว่า ลิทเทิ้ล สไปรัล มันจึงถูกเรียกว่า สาหร่ายสไปรูไลน่า นับแต่นั้นมา
ครั้งหนึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ที่เกิดความสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพและการดำรงชีวิตของชนเผ่าพื้นเมืองซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณตอนกลางของประเทศอัฟริกา เนื่องจากบริเวณที่ชนเผ่านี้อาศัยอยู่นั้นขาดแคลนแหล่งโปรตีนจำพวกเนื้อสัตว์เป็นอย่างมาก แต่เหตุใดพวกเขาจึงยังสามารถดำรงชีพอยู่ได้ และหลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นาน จึงพบว่า สาหร่ายที่ชนเผ่าพื้นเมืองนี้รับประทานแทนมื้ออาหารซึ่งหาได้จากทะเลสาบที่อยู่บริเวณแหล่งที่อยู่ จัดเป็นสาหร่ายที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอย่างไม่น่าเชื่อ และสาหร่ายที่พวกเขารับประทานก็คือ สาหร่ายสไปรูไลน่านั่นเอง พวกเขารับประทานสาหร่ายชนิดนี้แทนมื้ออาหารเพื่อการดำรงชีพ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทาน ลดการอักเสบต่างๆ ช่วยปรับปรุงระบบไหลเวียนของเลือด และบำรุงสุขภาพ และด้วยเหตุที่ สาหร่ายสไปรูไลน่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพาะเลี้ยงได้ง่าย องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟ เอ โอ (FAO) จึงประกาศว่า สาหร่ายสไปรูไลน่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต รวมถึงยกย่องให้เป็นแหล่งอาหารเสริมที่ดีที่สุดอีกด้วย
สารอาหารและองค์ประกอบหลักๆของสาหร่ายสไปรูไลน่า
สาหร่ายสไปรูไลน่ามีสารอาหารครบ 5 หมู่ คือ มีโปรตีน 65% คาร์โบไฮเดรต 20% ไขมันดี 5% เกลือแร่และวิตามิน 10% อีกทั้งยังเป็นสารอาหารที่มีความเป็นด่างสูง รวมถึงมีสารสีธรรมชาติอยู่อย่างครบถ้วน ( Pigments) ปริมาณการได้รับสารอาหารเหล่านี้จัดว่ามีความเหมาะสมและเพียงพอกับความต้องการของร่างกายของเรา
โปรตีน เป็นสารอาหารที่มีปริมาณมากที่สุดใน สไปรูไลน่า พลัส ซึ่งมีสูงมากกว่าในไข่ไก่และเนื้อวัว 4-5 เท่า
กรดอะมิโน ล้วนแล้วแต่เป็นอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายทั้งสิ้น และยังอยู่ในสัดส่วนที่สมดุลด้วย
แร่ธาตุต่างๆ การขาดแร่ธาตุอาจส่งผลให้ร่างกายอยู่ในสภาพที่เป็นกรดได้ โพแทสเซียม โซเดียม แมกนีเซียม เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแร่ธาตุที่มีใน สไปรูไลน่า พลัส ที่จะช่วยคืนสมดุลความเป็นด่างให้กับร่างกาย เพราะการ
ที่ร่างกายมีสภาพเป็นกรดสูงทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย นอกจากนี้การรับประทาน สไปรูไลน่า พลัส 4 กรัม ร่างกายจะได้รับสารอาหารและแร่ธาตุเทียบเท่าหรือมากกว่าการรับประทานผักสดถึง 100 กรัม
วิตามิน ในสไปรูไลน่า พลัส มีหลากหลาย โดยเฉพาะ เบต้า แคโรทีน เป็นสิ่งที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอได้ นอกจากนี้ยังมี กลุ่มของวิตามินบี วิตามินดี อี เค และเอช รวมอยู่ด้วย มีการศึกษาว่า การได้รับ เบต้า แคโรทีน 6 มิลลิกรัมต่อวัน อาจจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้ การรับประทานสาหร่ายสไปรูไลน่าสามารถช่วยเสริมการรักษาโรคต่างๆ ได้
ไฟโตรนิวเตรียน พลังของสารสีธรรมชาติใน สไปรูไลน่า พลัส ประกอบด้วย
- คาโรตินอยด์ ซึ่งจะเป็นการผสมระหว่างสารสีส้มหรือที่เรียกว่า แคโรทีน กับสารสีเหลืองหรือที่เรียกว่า แซนโทฟิล โดยสารสีทั้งสองกลุ่มนี้จะทำหน้าที่ร่วมกันใน การต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ซึ่งเป็นสารที่เปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้
- คลอโรฟิลล์ (สารสีเขียว) คลอโรฟิลด์นี้เปรียบได้กับเลือดของพืช มีโครงสร้างเหมือนฮีโมโกลบิน แต่จะต่างกันตรงที่มีแมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบแทนที่จะเป็นเหล็กเหมือนเลือดของคน โดยคลอโรฟิลด์จะทำหน้าที่สร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกาย และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ในสไปรูไลน่า พลัส มีคลอโรฟิลล์สูงกว่าอัลฟาลฟ่า 2 เท่า มีส่วนช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้แผลแห้งและหายเร็วขึ้น ช่วยร่างกายขับสารพิษ ฟื้นฟูตับและช่วยลดอาการอักเสบของแผลในกระเพาะอาหาร
- ไฟโคไซยานิน (สารสีน้ำเงิน) สารต้านเซลล์มะเร็ง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะใน สไปรูไลน่า พลัส มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของตับ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานดีขึ้น และช่วยป้องกัน และลดความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอก และช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งฟื้นตัวจากการรับเคมีบำบัดได้อย่างดีเยี่ยม